
ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)
สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นในตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าสินค้าตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการแนะนำสินค้าในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)” ซึ่งทุกวันนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นโดยจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือจะเป็น ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet) ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งาน ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet) นั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุและการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)เป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่จำกัดเป้าหมายและมีราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อทำให้ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ให้มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือรูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงผู้คนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ ซึ่งมีการจำนวนที่จำกัดและการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)จะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลายประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคาป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)เป็นสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ นั้นมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบ ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ราคาถูกกว่า
การแยกประเภท ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet) สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายอิงค์เจ็ทใช้ภายใน(Indoor) ภายนอกอาคาร(Outdoor) เป็นต้น หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายผ้า ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)สติ๊กเกอร์ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาดของป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายบิลบอร์ด คือ ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว ป้ายชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านสร้างความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการสังเกตในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมีวัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายจำพวกกระดาษที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นบริเวณที่คนมักจะยืนรอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ใต้อาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)นั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)การออกแบบและรายละเอียดที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet) ขนาด ที่เหมาะสมกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลในการใช้งาน แม้ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีประสิทธิภาพ ไม่เท่าป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ที่เป็นป้ายขนาดเล็กหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้นานเป็นเดือน หากใช้วัสดุไม่ถูกต้องแล้วก็จะทำให้งานโฆษณา ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)เสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็นวัสดุที่ทนทานเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ก็นับว่าเพียงพอ
ปัจจุบันการทำป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)นั้นไม่ได้มีราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)ไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ
http://www.pim-d.com/category/5/พิมพ์ป้ายไวนิล-พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet
หน้าที่เข้าชม | 73,729 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 51,056 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ธ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 เม.ย. 2561 |